สธ.สั่ง เฝ้าระวังไข้หวัดนก H5N1 หลังพบผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ รายที่ 2

รายงานการพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 ซึ่งคาดว่าติดเชื้อจากการสัมผัสสิ่งคัดหลั่งของโคนมในฟาร์มที่รัฐมิชิแกน นับเป็นรายที่ 2 ของสหรัฐอเมริกา 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกจากโคนมเป็นรายแรกของประเทศ ที่รัฐเท็กซัส จากการแพร่เชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 ครั้งนั้น ถึงแม้จะพบได้ยาก แต่ถือเป็นกรณีแรกที่มีแนวโน้มว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสามารถแพร่เชื้อไปยังคนได้

กรมควบคุมโรค
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค

จึงจำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์ไข้หวัดนกในประเทศไทย พบการระบาดครั้งสุดท้ายในคนเมื่อปี 2547 หลังจากนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมควบคุมโรค กรมปศุสัตว์ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีการเฝ้าระวังโรคอย่างต่อเนื่องทั้งในคน สัตว์ และสัตว์ป่า รวมทั้งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไข้หวัดนกในประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้จากการประสานงานกับกรมปศุสัตว์ทราบว่า ประเทศไทยไม่มีการนำเข้าโคนมจากสหรัฐอเมริกา จึงประเมินได้ว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงของการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดนกจากสถานการณ์ดังกล่าวในระดับต่ำ

สำหรับการเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังการระบาดของโรคไข้หวัดนกในประเทศไทย 

  • กรมควบคุมโรค มีความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ร่วมกับกรมปศุสัตว์ และศูนย์ป้องกันควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา เพื่อเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในคนและสัตว์ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง 

  • ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค กรมควบคุมโรค เพื่อพิจารณามาตรการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 

  • ประสานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่องความร่วมมือการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคภายใต้แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว (One health) เพื่อหารือและเตรียมความพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน โรคอุบัติใหม่หรืออุบัติซ้ำต่อไป

ถึงแม้ว่าประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกมานาน แต่ประเทศเพื่อนบ้านยังมีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในคนและสัตว์อย่างต่อเนื่อง กรมควบคุมโรค

ข้อแนะนำสำหรับประชาชน

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีกที่มีอาการป่วยหรือตาย 

  • ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาดโดยเฉพาะหลังสัมผัสกับสัตว์ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ตา จมูก ปาก ขณะใกล้ชิดกับสัตว์ 

  • หากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ใกล้บ้านทันที และสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด 

  • ห้ามนำสัตว์ปีกป่วยตายมาปรุงอาหารเด็ดขาด 

  • การรับประทานเนื้อสัตว์ปีกและไข่ต้องปรุงสุกสะอาด 

หากมีอาการคล้ายไข้หวัด ได้แก่ ไข้ ไอ มีน้ำมูก หายใจหอบเหนื่อย หรือมีตาแดงอักเสบ หลังสัมผัสกับสัตว์หรือสิ่งคัดหลั่งของสัตว์ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมกับแจ้งประวัติการสัมผัสสัตว์ให้แพทย์ทราบ โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1422 สายด่วนกรมควบคุมโรค

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

เราทำได้! ฝรั่งเศสโล่งอก พิธีเปิดโอลิมปิก 2024 ผ่านไปด้วยดี

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง เลือกที่จะทำ พิธีเปิดโอลิมปิก 2024 ใน แม่น้ำแซน แทนที่จะเป็นใ...

ทรัมป์ เตรียมกลับไปหาเสียงเมืองบัตเลอร์ โพลนำแฮร์ริส 2%

ทรัมป์ เผยเมื่อวันศุกร์ (26 ก.ค.) ว่า การหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ เพื่อเป็นเกียรติแด่นายคอเรย์ คอมเพอ...

วินาศกรรมรถไฟก่อนโอลิมปิก รัสเซียเกี่ยวข้องหรือไม่?

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (26 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุลอบวางเพลิงกล่องสัญญาณเคเบ...

พิธีเปิดโอลิมปิก 2024 ผ่านเรื่องเล่าการปฏิวัติ สู่เสรีภาพและความเท่าเทียม

พิธีเปิดโอลิมปิก 2024 ปารีสเกมส์ จบลงไปแล้วอย่างราบรื่น ครั้งแรกที่ไม่ได้จัดขบวนพาเหรดในสนามกีฬา เพร...