ไขข้อสงสัย "ฟองน้ำล้างจาน" ด้านสีเหลือง มีไว้ทำไม? อาจใช้ผิดมาตลอด

"ฟองน้ำล้างจาน" หรือ แผ่นใยขัดล้างจาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในครัวเรือนที่มีมานาน จนเป็นส่วนหนึ่งของครัว โดยสิ้นค้า "ฟองน้ำล้างจาน" ของบางแบรนด์มีการออกแบบ 2 สี คือสีเขียวและสีเหลือง

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมถึงต้องออกแบบ แบบนี้ แถมเนื้อสัมผัสต่างกันอีกด้วย โดยสีเหลืองจะมความนุ่มกว่าสีเขียว ล่าสุด ทีมผู้บริหารได้เปิดเผยถึงสาเหตุในการออกแบบผ่านรายการทีวีรายการหนึ่งของญี่ปุ่น ระบุว่า

• ภัยเงียบสุดสยอง 'ฟองน้ำล้างจาน' แหล่งสะสมเชื้อโรค ไม่ควรใช้เกินกี่เดือน?

ด้านสีเหลืองไม่ได้มีไว้ทำความสะอาด แต่มีไว้ช่วยสร้างฟองให้กับน้ำยาล้างจาน หากคุณใช้ฟองน้ำด้านสีเหลืองอาจขจัดคราบสกปรกบนจานได้ไม่หมด หรืออาจยากต่อการทำความสะอาด เพราะถูกออกแบบมาให้เปียกและมีฟองเมื่อเจอน้ำยาล้างจาน หากอยากให้จานของคุณสะอาด ควรใช้ทางด้านสีเขียวขัด เพราะเป็นเส้นใยที่ถูกออกแบบมาเพื่อขยัดสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า ด้านสีเหลือง

ขณะที่ข้อมูลรศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เตือนภัย "ฟองน้ำล้างจาน"  ควรเปลี่ยนทุก 1 เดือน

เพราะเป็นแหล่งรวม เชื้อโรค มากมาย  สาเหตุที่ฟองน้ำล้างจาน เป็นแหล่งรวมเชื้อโรคนั้น เพราะ "ฟองน้ำล้างจาน" เป็นสิ่งที่ใช้เช็ดล้างสิ่งสกปรก มีความชื้นแฉะ ทำให้มี เชื้อโรค สะสมได้ง่าย ทางที่ดีควรเปลี่ยน "ฟองน้ำล้างจาน" ทุก 1 เดือน

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลงานวิจัยหนึ่งจากมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา (Arizona State University)  ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองเทมพี ในรัฐแอริโซนา บอกไว้ว่า "ฟองน้ำล้างจาน" ทุกๆ 1 ตารางนิ้ว มีแบคทีเรีย กว่า 10 ล้านตัว หรือ มากกว่าฝารองนั่งชักโครก เสียอีก

เนื่องจาก "ฟองน้ำล้างจาน" ที่ใช้ทำความสะอาดสิ่งสกปรกออกไปนั้น ตัวมันเองก็ดูดเอาสิ่งสกปรก มาอยู่ข้างในรูพรุนที่มีเป็นจำนวนมาก ทำให้เชื้อ แบคทีเรีย เข้าไปสะสมอาศัยด้านในได้ง่าย "ฟองน้ำล้างจาน" เก่า ที่ไม่ยอมเปลี่ยน ก็อาจมี เชื้อโรค เยอะ เวลาเอาไปล้างจาน อาจนำเชื้อจุลินทรีย์ไปติดที่จานเพิ่มขึ้นได้ด้วย และแบคทีเรียพวกนี้ อาจทำให้เกิดโรคได้ เช่น อาหารเป็นพิษ ท้องเสีย ท้องร่วง ไข้สมองอักเสบ เป็นต้น

ทริคในการใช้ "ฟองน้ำล้างจาน" ให้ปลอดภัย ห่างไกล เชื้อโรค มีดังต่อไปนี้

• ไม่ควรแช่ฟองน้ำทิ้งไว้ในน้ำ หรือน้ำยาล้างจาน เมื่อใช้เสร็จแล้ว เพราะจะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้
• หลังจากใช้ "ฟองน้ำล้างจาน" เสร็จแล้ว ให้ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด บีบให้แห้งแล้วผึ่งลมไว้ให้แห้ง อาจวางไว้บนตะแกรงที่แห้งและระบายอากาศได้ดี หรือจะใช้ไม้หนีบผ้าหนีบไว้กับรางที่คว่ำจาน ให้สามารถระบายอากาศและโดนลมจนแห้งได้
• บางคำแนะนำ บอกว่าไม่ต้องตากให้แห้งก็ได้ ถ้าเป็นน้ำยาล้างจานชนิดมีสารฆ่าเชื้อด้วย
• เปลี่ยน "ฟองน้ำล้างจาน" บ่อยๆ หรืออย่างน้อยทุกๆ 3-4 สัปดาห์ หรือสังเกตว่าฟองน้ำเริ่มยุ่ย หรือ หากเห็นสก็อตไบร์ทหรือแผ่นใยขัด ที่เริ่มนิ่มขนหลุดออกมาได้ นั่นเป็นสัญญาณเตือน ว่าควรเริ่มเปลี่ยนไปใช้อันใหม่ได้แล้ว

ที่มา : ettoday

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวยอดนิยม